วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ธรรมค้ำจุนโลก

ธรรมค้ำจุนโลก

โลกไม่เคยว่างเว้นจากธรรม 
เช่นกัน  ธรรมก็ไม่เคยละทิ้งโลก
 ความเป็นอยู่ของโลก กับ ธรรมจึงต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันมาโดยตลอด
 เช่นเดียวกับมนุษย์ สัตว์ต้องพึ่งพาอาศัย ธาตุดิน-น้ำ-ไฟ- ลม
เพื่อยังชีวิต อัตภาพของร่างกาย
แต่ ส่วนจิตใจของมนุษย์  สัตว์ ก็มีสิ่งหนึ่งคืออาหารของใจ
คือ บุญและบาป
บุญ เป็นอาหารชั้นเลิศของจิตไม่ว่ามนุษย์ และสัตว์ เพราะบุญคือ ความสุข สงบ เยือกเย็น
 บาป คือ ความรุ่มร้อน คับแค้น แผดเผา ความบีบคั้น ทุกข์ทรมาน ที่มีผลเกิดขึ้นต่อจิตใจ และร่างกาย เรียกสิ่งนั้นว่าเป็นผลมาจากบาป ซึ่งไม่เป็นที่ปรารถนาของทุก ๆ ดวงจิตในจักรวาลหรือในโลก มนุษย์ผู้ฉลาดย่อมขนขวายในการสร้างบุญเพราะรู้ว่าบุญคือเสบียงในการเดินทาง
ท่องเที่ยวเกิดตายในวัฏจักร เพราะบุญจะหนุนการขยับขับเคลื่อนของจิตจนถึงจุด หยุด การเวียนว่ายตายเกิด คือหยุดทุกข์ได้โดยสิ้นเชิงที่แห่งนั้นเรียกว่า พระนิพพาน พระนิพพานจึงเป็นที่ต้องการของทุก ๆ ดวงจิต เพราะพระนิพพานคือจุดสูงสุดยอดบรมสุข
ด้วยเหตุนี้จึงเกิดคณะพลังศรัทธา ร่วมกันสร้างบุญบารมีโดยสงเคราะห์ซึ่งกันและกันทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ
ด้านร่างกาย คือ บริจาคทรัพย์สิ่งของ
เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทางร่างกาย
ด้านจิตใจ ได้ร่วมกันสละทรัพย์จัดสร้างสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนขึ้น เพื่อนำธรรมซึ่งเป็นความชุ่มเย็นเข้าสู่จิตใจ
โดยรวบรวมปัจจัยถวายองค์พระหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด
ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อให้องค์ท่านเป็นผู้พิจารณาว่าส่วนไหนควรจัดสงเคราะห์ด้านจิตใจ ส่วนไหนควรจัดสงเคราะห์โลกด้านร่างกาย เช่น ดูแลผู้ป่วยด้วยเครื่องมือแพทย์ชั้นดีตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน เช่น
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ส่วนด้านจิตใจ สถานีวิทยุเสียงธรรม และเครือข่ายทั่วประเทศที่มีผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันจัดสร้างขึ้น
พร้อมทีวีผ่านดาวเทียมไทยคม ได้ส่งธรรมเข้าสู่หัวใจของผู้รับฟังทั่วประเทศ และหนังสือธรรมะ - ซีดี ฯลฯ
 บทความนี้ขอน้อมรำลึกถึงผู้มีคุณทุกท่าน
ซึ่งเป็นเพียงบางส่วนของคณะศรัทธาที่รวมพลังกันสร้างบุญกุศลใหญ่ในชาติที่เกิดมาเป็นมนุษย์ จึงนับว่าเป็นผู้เลิศทางปัญญา
สร้างฐานบารมี เพื่อเป็นที่อยู่ของจิต
ขุมทรัพย์อันประมานค่าไม่ได้ ต่อจิตใจของตัวเอง
จึงขอกราบอนุโมทนาบุญกับคณะศรัทธาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งในภพนี้
และภพหน้าด้วยเทอญ
สาธุ

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

1. ธรรมะ คุณแม่จันดี โลหิตดี เมตตา

ธรรมะคุณแม่จันดี  เมตตา


จิตยิ่งใหญ่
ธรรมชาติของจิตมีทั้งสงบและทุกข์ แต่สิ่งที่
ทำลายจิต คือ ทุกข์ เมื่อจิตทุกข์แล้ว
ความเจ็บป่วยของจิตย่อมเกิดตามมา
ความเศร้า ความกังวล และความละอาย
ความคิดอยากทำลายตัวเอง คือ สัญญาณ
บอกว่าจิตกำลังไม่สบาย
หยุดคิด คือ หยุดทุกข์
เพราะทุกข์คือโรคร้ายของจิต
หากไม่หยุดคิดวุ่นวาย ความทุกข์ก็ย่อมเกิด
ขึ้นอยู่ร่ำไป เมื่อประสบปัญหาเราต้องหายา
รักษาจิต ซึ่งมีอยู่ชนิดเดียว ไม่เคยล้าสมัย
ได้ผลยอดเยี่ยม คือ พุทโธ เมื่อคิดพุทโธแทน
ความทุกข์จิตที่วุ่นวายก็เริ่มอยู่นิ่ง และสัมผัส
กับความสงบได้ ความคิดต่างๆ ที่รุมเร้า
ก็ผ่อนคลายลงได้
รักษาทุกข์ด้วยยา คือ พุทโธ
พุทโธ ไม่ใช่คำกำจัดความของศาสนาใด
ศาสนาหนึ่งคือ พุทโธ เป็นยารักษาจิต
ที่ยอดเยี่ยมที่สุดนี้คือยาที่ทุกคนสามารถ
พิสูจน์และทดลองได้ด้วยตนเอง ผู้ที่ยอม
กินยานี้ย่อมประสบกับความสงบในจิต
หยุดความทุกข์จากความคิดทั้งปวงได้
และเห็นผลอย่างแน่นอน อยากให้ทุกคน
พิสูจน์ทดลองเพราะโรคทุกข์มีอยู่ในใจ ของทุกคน

~~~~~~~~~~~

พระคุณแม่เมตตาธรรม
·    ใดใดในโลกล้วนอนิจจัง
·    ธรรมเอกหนึ่งไม่มีสอง
·    โลกเป็นพิษ  ธรรมเป็นยาดับพิษ
·    บรมสุขแท้ คือ นิพพาน
·    พระพุทธเจ้า พระอรหันต์สาวกองค์สุดท้ายเป็นธรรมดวงเดียวกันเสมอกัน
·    พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์สาวกทุก พระองค์สมควรแก่การเคารพกราบไหว้
         เป็นเนื้อนาบุญของสัตว์โลก   องค์พระพุทธเจ้าทุก พระองค์    และพระสาวกทุก
          พระองค์กำจัดแล้วซึ่งอาสวะกิเลส
*** ท่านยังเทศน์ต่อไปอีก
เทพอนุโมทนา    สาธุพวกข้าพเจ้ากราบขออนุโมทนาสาธุการกับทุก พระองค์ 
ขอให้พวกข้าพเจ้าได้ครองธรรมดวงเลิศ ดวงประเสริฐ ทุก พระองค์ด้วยเทอญสาธุ
                        พวกข้าพเจ้าขอกราบเคารพ ขอกราบบูชาธรรมมาสถิตย์ดวงจิตของพวกข้าพเจ้า
ดังทุก พระองค์ด้วยเทอญสาธุ สาธุ สาธุ
                        กราบขอเคารพกราบขอบูชา กราบอนุโมทนาสาธุการกับทุก พระองค์


 (วันที่  14  สิงหาคม  2543 ดูที่เกษาเห็นดวงสว่างเห็นเป็นพระพุทธเจ้า
ต่อมาเป็นพระหลวงตาบัว และต่อมาเป็นพระคุณแม่จันดี)
ช่วงที่ 1
·    จิต คือ พุทธะ
·    ธรรมะ คือ ธรรมชาติ
·    น้อมจิตเข้าสู่ธรรม ชำระขาดซึ่งกิเลส
·    รสแห่งธรรมชำนะซึ่งรสทั้งปวง
·    จิตพุทธะ คือ ที่สุดแห่งธรรม
·    สิ้นทุกข์ สิ้นโลก สิ้นธรรม จึงเหนือ
·    โอภารส คือ รสแห่งธรรม
·    ที่สุด ที่สุด ของที่สุด จึงเรียกว่าเหนือ
·    เหนือบันลังก์โลก เหนือบันลังก์ธรรม จึงได้ครอง
·    สว่างแท้ คือ ธรรมทั่วไตรโลกาหาที่เปรียบมิได้ผู้ใดได้ครองจึงเป็นทองทั้งแท่ง
·    จิต คือ พุทธะ   พุทธะ  คือ จิต  มีอยู่ในทุกตัวสัตว์
·    สะพานโลก สะพานธรรม  ขาดลงตรงกลางจิต จึงประดิษฐ์พระขึ้นทั้งองค์ ทรงธรรมแท้
         จึงเป็นหลักธรรมชาติวิสุทธิจิต วิสุทธิธรรม  เลิศล้ำเหนือโลก
·    พุทธะ คือ จิต   จิต คือ พุทธะ
·    พุทธะแท้รวมอยู่ที่ใจ ประเสริฐแท้คือ ธรรมเหนือโลก
กราบคุณพระพุทธ กราบคุณพระธรรม กราบคุณพระสงฆ์
น้อมนำจิตสถิตย์ที่ดวงใจ ขอให้ธรรมดวงเลิศของทุก พระองค์
จงมาสถิตย์ที่จิตของพวกข้าพเจ้าด้วยเทอญ
สาธุ สาธุ   สาธุ
             พวกข้าพเจ้า ขอน้อมอนุโมทนา สาธุการกับทุก พระองค์ที่ถึงที่สุดแห่งทุกข์ 
ที่พ้นการเวียนว่ายตายเกิด  วิสุทธิจิต วิสุทธิธรรม 
สว่างล้ำเหนือโลก เหนือสงสาร ไม่มีประมาณ
ข้าพเจ้ากราบขออนุโมทนาสาธุการผู้ได้ครองธรรมทุก พระองค์ด้วยเทอญ
            กราบขอเมตตาบุญญาบารมี จากทุก พระองค์    ขอให้ข้าพเจ้าได้ทรงธรรม
ดังทุก พระองค์ด้วยเทอญ ธรรมดวงวิสุทธิ์ขอจงมาสถิตย์ที่จิตของพวกข้าพเจ้าด้วยเทอญ         
           วิสุทธิจิต วิสุทธิธรรมของทุก พระองค์ช่างงามล้ำไม่มีประมาณ
พวกข้าพเจ้าขอกราบอนุโมทนาสาธุการกับทุก พระองค์ผู้ทรงธรรมดวงเลิศ ดวงประเสริฐ
สว่างไสวทั่วไตรโลกกด้วยเทอญ
สาธุ สาธุ สาธุ
            ขอให้พระพุทธเจ้าทุก พระองค์ทรงเมตตาสัตว์โลกผู้มืดหนาด้วยเทอญ

ช่วงที่ 2 หลังจากคุณแม่สรงน้ำ
·  ไฟ คือ กิเลส  ธรรมเปรียบเหมือนน้ำ  น้ำธรรมจึงดับได้
·  ธรรมแท้จึงเรียกว่าเหนือบริสุทธิ์ สะอาด ดวงเลิศ ประเสริฐแท้ คือ ธรรม   
     พระพุทธเจ้าทุก พระองค์ จนถึงพระสาวกองค์สุดท้าย ได้ครองแล้วซึ่งธรรมดวงเดียวกัน   
    ประเสริฐแท้ เท่ากับเป็นธรรมอันเดียวกันครองหลักธรรมชาติ เวิ้งว้าง สว่างไสว ไม่มีที่เปรียบ
     ไม่มีประมาณ กำหนดไม่ได้ที่ไปที่มาที่อยู่ที่เป็น ไม่อาจหยั่งได้
·  พุทธะแท้ คือทุก พระองค์ที่ทรงธรรมแห่งความบริสุทธิ์
    - แดนแห่งธรรม   ช่างงามล้ำ   สิ้นกิเลส   ทุก พระองค์    จึงทรงฉุดลากสัตว์โลกผู้มืดหนาพา
     สู่วิสุทธิจิต  วิสุทธิธรรม  ดั่งพระองค์ทุก พระองค์ทรงความเมตตา ไม่มีประมาณ มหาเมตตา
     มหากรุณา มหาธิคุณต่อสัตว์โลกเหนือความโลภ ความโกรธ ความหลง ทิฎฐิมานะ
     มีอยู่ประดับโลกทั่วไปทุก พระองค์ ทรงสละทิ้งไม่ไยดี ก้าวสู่ธรรม สละแล้วซึ่งตัวตน
     พ้นแล้วซึ่งโลก อาภรณ์ของโลก วัตถุของโลก  ทรงแล้วซึ่งธรรม
     ธรรมแห่งความว่างเปล่าในความว่าง เวิ้งว้าง ว่างเปล่า หลุดพ้นจากโลก จึงเหนือ
   - ทุก พระองค์ทรงเมตตาต่อสัตว์ อยากให้ทุกตัวสัตว์ สละสิ้นซึ่งโลก

สละโลก คือ สละทุกข์
สละสุข คือ สละโลก
สละโลก จึงได้ธรรม
สละธรรม จึงเหนือโลก
เหนือที่สุด ที่สุด ที่สุดของที่สุด ไม่มีประมาณ

(*พระจิตของพระคุณแม่จันดีเมตตาต่อศิษย์)

·    ฝากสานธรรมเข้าที่จิตของศิษย์ทุกคนให้พ้นทุกข์ดั่งพระองค์  ระงมทุกข์ ระงมสุข 
         น้ำตาแห่งทุกข์  น้ำตาแห่งสุข  สถิตย์ที่จิตทุกตัวคนหลงวนจึงพ้นไม่ได้
·    ธรรมเหนือโลก อยากพ้นโศก จงทิ้งสิ่งรุงรัง นุงนังในจิต พิษแห่งโลก
         ระงมทุกข์มานับไม่ถ้วนทวนธรรม  ทวนโลก  เข้าสู่พระนิพพาน สานต่อธรรม 
         น้อมนำสถิตย์ที่จิตของศิษย์     ข้าพระองค์ด้วยเทอญ
·    อยากจะบอกต่อศิษย์ ให้ทิ้งจิต ที่เต็มไปด้วยโลก เชิญมาเถอะ มาเสวยสุข
         สุขแท้ บรมสุขแท้ ให้ได้สัมผัสที่จิต สถิตย์ที่ใจครองไว้ซึ่งธรรม ความบริสุทธิ์
         พิสุทธิ์แท้ สว่างล้ำ เลิศโลก เหนือธรรม  เหนือเหนือไม่มีประมาณ
·    แขนสองข้างของพระองค์อยากดึงเหล่าสานุศิษย์ติดไปด้วยพระเมตตา
         พระกรุณา พระมหาธิคุณ
            ข้าพเจ้าเหล่าศิษย์กราบขออนุโมทนา สาธุการ กราบขอขอบพระคุณในความเมตตา
ที่ทุก พระองค์ได้ทรงเมตตาต่อสัตว์โลกผู้มืดหนา ไม่มีประมาณด้วยเทอญสาธุ สาธุ สาธุ
วันจันทร์ที่  ๒๙  เมษายน  ๒๕๔๕   แรม ๓ ค่ำ  เดือน ๖ (ตอนเย็น)
            พระคุณแม่จันดีท่านได้เมตตา  ภาพประกอบเนื้อธรรมในขันน้ำสรงมือของท่าน
ในภาพเห็นพระพุทธเจ้าประทับอยู่ในธรรมจักรวิเศษ  รอบธรรมจักรมีพระสงฆ์สาวก
นั่งอยู่เต็มก้านของธรรมจักร  ล้วนแล้วแต่เป็นพระผู้บริสุทธิ์  มีทั้งพระหลวงตา
และพระคุณแม่จันดี ทั้ง ๒ พระองค์ทรงชี้นำบอกทาง  ปูทางเดินของธรรมแท้
เป็นทางสว่างขาวนวลปูลาด บนน้ำทะเลมหาสมุทร  ประดุจพระจิตที่บริสุทธิ์ของท่าน
ทั้ง ๒ พระองค์  ท่านทั้ง๒ พระองค์ เสด็จลอยขึ้นลง นำหน้าพาเดิน เมื่อถึงเกาะแก่งแห่งทุกข์
ในภาพท่านทั้ง ๒ พระองค์    จะเมตตาเปรียบเทียบขณะที่ท่านบุกบืนฝ่าฟัน
ให้ดูประกอบกับเนื้อธรรมของท่าน  เพื่อเป็นกำลังใจ ท่านทั้ง ๒
แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ พุ่งขึ้นลง ผ่านฟ้า ทะลุเมฆ
พุ่งขึ้นผ่านทะลุทั่วทั้งจักรวาล  รัศมีของท่านสารพัดสี งดงามมาก
เนื้อธรรมในน้ำสรงมือของพระคุณแม่จันดี
   สุขใดไหนจะเท่าพระนิพพาน
ธรรมเป็นเครื่องชะล้างโลก   ธรรมเป็นเครื่องชะล้างทุกข์ 
พระธรรมไม่เคยลวงโลก
  ทุกข์โศกพ้นได้ที่จิตผู้ใดหมั่นพิจารณาจิต  ผู้นั้นจะพบธรรมแท้ สุขแท้
สุขอัศจรรย์พ้นได้ที่จิต ละเลิกเบิกทาง แห่งวัฏฏะ 
  สุดยอดของพระธรรมคือผู้สิ้นสุดหยุดวัฏฏะ   บริสุทธิ์ สะอาด
ปราศจากสิ่งเจือปน
พ้นจากโลกโดยสิ้นเชิง    เหนือโลกวัฏฏะ  สร้างพระที่ใจ
มีพระนิพพานเป็นที่ไป  นี่คือที่สุดของผู้หยุดวัฏฏะ
   ขอกราบบูชาพระผู้ปูทางสร้างจิต  พิจารณาทุกข์จากโลก
พระผู้หยุดแห่งวัฏฏะ-ดุจเพชร  ผ่านฟ้าทะลุโลกมาเมตตาสัตว์ 
เส้นทางยากลำบากยากแค้นแสนทุกข์ทน
ผู้ถึงความหลุดพ้นจึงรู้ว่าคุ้มค่า ท่านสอนธรรมให้พวกเรา
ก้าวตามพระองค์  จงประสบธรรมแท้เหนือโลก 
ขอพระองค์ทรงเมตตาพวกข้าพเจ้าด้วยเทอญ
   เกาะแก่งแห่งธรรมถึงจะไกล และทุกข์ยาก 
ทรงลำบากชี้นำพร่ำสั่งสอน  เพื่อให้พ้นจนนิพพาน 
ขอก้มกราบพระบาทท่าน ทั้ง ๒ พระองค์ทรงชี้ทางบอก มาโปรดลูก
   มาเถอะลูกตามพ่อมา  ถึงจะช้าคงไม่พ้นต้องได้เจอ
จะคอยหาชะแง้มองเมื่อถึงฝั่ง  ถึงจะทุกข์ก็อย่ายั้งหยุดนะเจ้า
พ่อเมตตาทุกคนพ้นระนา  คอยพวกเจ้าให้มาถึงซื่งพระนิพพาน.


วันอังคารที่  ๓๐  เมษายน  ๒๕๔๕   แรม ๔ ค่ำ  เดือน ๖ (ตอนเย็น)

            พระคุณแม่จันดีท่านได้เมตตา  ภาพประกอบเนื้อธรรม ท่านเอามือจับข้างหลัง
ตรงข้ามหัวใจของผู้ดูไว้ตลอด  ในขณะที่ดูท่านได้เมตตาให้เห็นภาพประกอบเนื้อธรรม
ในขันน้ำสรงมือของท่าน  ในภาพเห็น
พระพุทธเจ้าประทับยืนรัศมีรอบเศียรของท่าน
เปล่งสว่างขาวนวลเป็นรูปใบโพธิ์  รอบนอกของใบโพธิ์มีสารพัดสี 
 เห็นพระหลวงตาและพระคุณแม่จันดี
ยืนเคียงข้างท่าน  ทั้ง ๓  พระองค์ ครองจีวรสีกลักเป็นริ้ว
ลดหลั่นสวยงามมาก ท่านทั้ง ๓ พระองค์ มีรัศมีครอบรอบเศียรดั่งเดียวกัน
รัศมีจากท่านสาดส่องเต็มท้องฟ้าอากาศทั่วโลกธาตุไม่มีที่ว่างเลย 
ดั่งพระจิตของท่านที่เมตตาต่อโลก

เนื้อธรรมในน้ำสรงมือของพระคุณแม่จันดี

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
แสงธรรมเหนือโลก สาดส่องดั่งกล้องวิเศษ
ถูกกิเลสที่มืดดำปิดกั้นธรรมทุกรูปแบบ  ธรรมแทบจะแทรกไม่ได้
กายทะลุหัวใจพัง จึงถึงฝั่งพระนิพพาน 
มืดแสนมืด ลึกแสนลึก ยากแสนยาก   ทางของธรรมเจาะลำบากยากยิ่งแสน
เพียงสาดส่องลามเลียระเหี่ยใจ   อยากฝากไว้ให้ลูกหลานคืบคลานตาม
กล้องส่องทางแห่งธรรมลำบากแสน   สุดยากแค้นดึงพวกเจ้าเข้าหาฝั่ง
ทุกข์ต้องทนจนระอาอิดหนาใจ   ฝากธรรมไว้เป็นคติที่ใจเทอญ
ธรรมมีจริงพวกเจ้าทิ้งทุกสิ่งได้ แต่ดวงใจกลับเมินธรรมน่าชังนัก
แม่ทั้งรักปลูกฝัง หวังให้เจ้าเข้าถึงฝั่งดังแม่เอย

ธรรมที่จิตที่ส่งให้ได้ใฝ่รู้  เหมือนสุดกู่ไกลลิบลับต้องพลัดตก

สุดหยิบยกธรรมสอนสั่งดังหวังไว้   แม่อยากให้ลูกผู้รับ กลับมืดมนสับสนจริง
ไม่ชอบทิ้งโลกา แม่พาไป    ชอบเกิดตายทิ้งร่างฝังดินไว้    
ชอบให้จิตทุกข์หมกไหม้ไม่ยอมถอย    ทางแห่งธรรมแม่ชี้นำไม่ชอบเอา
อยากฝังร่างพวกสูเจ้าเฝ้าแผ่นดิน    ก้อนธาตุสี่นี้จิตคงหวงแหน
ธรรมของแม่คงทดแทนธาตุไม่ได้   หวังเทียวเกิดเทียวตายสลายธรรม
แม่น้อมนำชักชวน หวนทิ้งธรรม   สุดจะนำเข้าถึงฝั่งดังใจหมาย

ร่างของแม่สลายเมื่อถึงกาล   คงได้รู้ก็เมื่อสาย หายเห็นผิด

ถึงจะคิดอยากให้ฟื้นฝืนไม่ได้  
เมื่อแม่อยู่สอนสั่งดั่งคล้ายลม   บอกผสมอากาศแล้วผ่านไป
ดั่งธรรมไร้ความหมายคล้ายของผิด   ไปสะกิดกิเลสเจ้าเข้าไม่ถึง
สุดสังเวชกิเลสมืดฝืดเคืองจม   แม่สุดทน ต้องจำลาพาจากไกล
ถ้าคิดได้ตั้งตัวขึ้นนะเจ้า   เฝ้าพนมก้มกรเพียรกราบไหว้ 
แล้วสลายดวงจิตที่ผิดพลาด   ได้ประกาศธรรมของจริง ทิ้งโลกา

แดนแห่งธรรมนานแสนนาน   คอยพวกเจ้าเฝ้าคืบคลาน ผ่านทิ้งโลก

พ้นทุกข์โศกเมื่อใดได้พบแม่   ครองธรรมแท้แดนเดียวกันเมื่อทันถึง
แม่ช่วยดึงคอยให้กำลังใจลูก   ถึงแม่จะผ่านทิ้งโลกไปนานแสนนาน

แม่ยังสานธรรมไว้เพื่อได้เดิน   จับให้มั่นทางแม่สานเฝ้าเดินต่อ

อย่าได้ท้อไม่มีแม่ชะแง้หา   สุดอ้างว้างไม่ห่างทางแม่นำพา

คอยลูกมายื่นมือไว้ให้เจ้าดึง   โลกไม่เที่ยง ความพลัดพรากจากพวกเจ้า
ขอให้เฝ้าคำนึงคิดถึงจิตตลอด เมื่อแม่จาก  
ความพลัดพรากเป็นของจริง   ธรรมไม่ทิ้งจริงแท้คืออนิจจัง
เมื่อถึงฝั่งเมื่อใดจึงได้พบ   ถึงจุดจบอนิจจังพังไปสิ้น
สุดเมตตาลูกยาที่เคยเกิด   เคยกำเนิดในภพทั้งน้อยใหญ่
แม่จะจากฝากธรรมไว้ให้ลูกตาม   นานแสนนาน อย่าทิ้งธรรมแม่พร่ำสอน
คงสักวันได้พบกันหรอกนะเจ้า   แม่คอยเฝ้าอยู่แดนสุข ไร้ทุกข์สิ้น

แม่จะผินหน้าคอยมองหาพวกลูกยา   คอยให้มาถึงฝั่งดั่งแม่เอย.