วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

2. กลอนเดินดง โดยคุณแม่จันดี โลหิตดี

“สรภัญญะกลอนเดินดง”
ท่านแต่งเพื่อบูชาคุณครูบาอาจารย์ที่ธุดงค์แสวงหาธรรมด้วยความยากลำบาก
ประพันธ์โดย  คุณแม่จันดี โลหิต วัดป่าบ้านตาด แต่งเมื่อปลายปี พ.ศ. 2535

ตัวดิฉันเดิน มา                     กาเว้าวอนน่าจับใจ                             
เดินดงในพงไพร                      เสียงจั๊กจั่นแลเรไร      
เดิน เป็นวัน                       ใจกระสันคิดถึงบ้าน                           
นกร้องก็วีวอน                          น่าออนซอนจากเคหัง                          
แมงง้วงและแมงอี                   ร้องวี ก้องกังวาล                             
คิดหลังก็คิดหน้า                      แทบน้ำตาจะกระเด็น                         
เดินป่าเพื่อประสงค์                 ธรรมดวงเลิศประเสริฐแล                   
เดินดงตามพงไพร                    ตามลำห้วยแลเหวชัน                
จิตใจเกิดกระสัน                      เดินคนเดียวเฉลียวใจ                         
เดินไพรก็แสนยาก                   ทั้งลำบากกายแลใจ                                                               
ประสงค์แล้วก็เดินมา              ทั้งป้า - อาก็ได้จาก
แสนลำบากก็ต้องทน               สิ่งอาลัยพาจำจน                                
ตัวดิฉันเปรียบเหมือนมะลิจันทร์          ใจกระสันต่อการะเกด            
เดินป่าในไพรสณฑ์                  ใจกังวลห่วงกายา                   
มองดอกเกดบานตามดง         ตามพงไพรอรัญญา                            
เสียงกาก็เว้าวอน                     เสียงแมงซอนก็วีวี                               
ในไพรกว้างนา มี                  พร้อมทั้งช้างและหมีเม่น                     
มีกระต่ายมีทั้งเต่า                   ทั้งพังพอนพร้อมกะเลน          
มีไก่ป่าเป็นฝูง                        เสียงมันขันก้องกังวาล                
มีกระจงพร้อมตระกวด            ร้องซวด ในพงไพร
เดินป่าในไพรสณฑ์                  เสียงนกร้องก็ยืนฟัง
มันร้องว่าเร่งขวนขวาย      ทำความเพียร
เกิดเป็นคนแสนประเสริฐ   อย่านอนใจเร่งขวนขวาย
ฟังแล้วสะดุ้งใจ                       นกแท้ ร้องเตือนเรา
คิดสงสารสัตว์เลื้อยคลาน       ทั้งในน้ำและบนบก
(ซ้ำ)     ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตาย   เที่ยวแวกว่ายในสงสาร (วัฏฏะ)
ล้วนแล้วแต่มีกรรม                   ต้องชดใช้จึงหมดกรรม           
ขอหยุดไว้เพียงแค่นี้                 เรื่องใช้กรรมมีมากมาย
อธิบายจบไม่เป็น                     โลกอันนี้ อนิจจา
ที่นี้ ก็สิ้นรัก                              จากที่พักมานานแล้ว  
มีกระรอกร้องเปรี้ยบ            กระโดดเต้นโหนเถาวัลย์
(ซ้ำ) ผีเสื้อบินเพลิน (แสนสวย)        ยังเจอแย้โฉบไปกิน (ซ้ำ)
ตัวแย้อยู่รูดิน                           ยังโฉบกินของบินได้
มันลำบากแสนจะทน               ยังไม่พ้นเดรัจฉาน
เกิดเป็นสัตว์แสนลำบาก         ทั้งทุกข์ยากแลหิวโหย
รำคาญด้วยบาทา                    ตามมรรคาไม่มีภัย
ค้างคาวบินหวลโหน                ตามในถ้ำและเงื้อมผา
(ซ้ำ) สัตว์ป่านานามี                 บ่างชนี ร้องโหยหวล (ซ้ำ) โอดโอย
สมันกวางแลอีเก้ง                   ร้องเปล้ง ตามพงไพร
ลิงขาวและลิงแดง                   กระโดดเต้นตามเถาวัลย์
มองสัตวป่าน่าสังเวช               สลดใจน่าทุเรศ (สงสาร)
จิตใจก็คิดสั้น                           ใจกระสันคิดถึงบ้าน
ตัวข้านี้คนเข็ญใจ                     แสนลำบากทั้งกายา
ท้อใจในพงไพร                                   แสนพะวงบ่เว้นวาย
เสียงเสือร้องฮาวฮือ                 ใจห่อเหี่ยวสะดุ้งกลัว
ถึงกลัวก็ต้องทน                      สาละวนก็ต้องสู้
ที่นี่ก็เดือนหงาย                       มองเห็นเสือลายพาดกลอน
ก็ยืนปลงอนิจจา                      สังขาราไม่เที่ยงตรง
หนุ่มแก่ย่อมจักปลง                 ชีวิตม้วยอย่าสงกา
      จะขอย้ายคืนสู่บ้าน           สถานเดิมที่จากมา
ลากล้วยไม้ในไพรสณฑ์           ทั้งลำดวนหอมหวนไกล
ลาดอกไม้ชื่อมันปลา                ทั้งจำปีขอลาจาก  
กระดังงาที่หอมหวล                 ชักชวนใจให้ร่าเริง
ตัวดิฉันลาพงไพร                     ทั้งอาลัยแลอาวรณ์
ในคราวจะจำจาก                    พรากพงไพรสู่เคหัง
ไม่อยากจากก็จำใจ                 โลกอันนี้อนิจจัง 
ขอให้ดงพงไพร                        อันใหญ่กว้างจงเจิรญ
     ตัวดิฉันขออำลา                  คืนสู่บ้านสถานเดิม (ซ้ำ)

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ 
สรภัญญะกลอน "ธุดงค์" ประกอบในวีดิทัศน์ "เทิดทูน 90 ปี พระหลวงตามหาบัว"
จัดทำโดยคุณแม่จันดี โลหิตดี (เมื่อพ.ศ.2545)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น